10 สิ่งที่อาจไม่เคยรู้เกี่ยวกับ Ultraformer
ปัจจุบันเทคโนโลยีความงามมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ซึ่งเทคโนโลยีที่ว่ามีผลกับโลกของความงามด้วยเช่นกัน ส่งผลให้การรักษาผิวพรรณให้ดูอ่อนเยาว์โดยไม่ต้องผ่าตัดจึงกลายเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก หนึ่งในเทคโนโลยีที่กำลังมาแรงและได้รับความสนใจจากผู้ใช้มากมายคือ Ultraformer
การทำ Ultraformer คือวิธีการที่ใช้คลื่นเสียงความถี่สูง (HIFU) เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวลึก ทำให้ผิวหน้าดูตึงกระชับและอ่อนเยาว์ขึ้นทันทีหลังการรักษา เป็นการช่วยยกกระชับผิวและลดเลือนริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คําถามต่อไปที่ทุกคนอาจจะสงสัยกัน คือการใช้เทคโนโลยีที่ชื่อ Ultraformer ช่วยให้ดูเด็กลงได้จริงหรือไม่? หรือสิ่งที่อาจไม่เคยรู้เกี่ยวกับ Ultraformer ในบทความนี้จะพาทุกคนไปสำรวจข้อมูลเชิงลึกรวมถึงวิธีการทํางาน ข้อดี และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นหลังทํา เพื่อให้ทุกคนมั่นใจว่าการทํา Ultraformer จะสามารถสร้างผลลัพธ์ที่แท้จริงได้
Ultraformer คืออะไร?
Ultraformer คือ เทคโนโลยีที่ใช้คลื่นเสียงความถี่สูง (High-Intensity Focused Ultrasound หรือ HIFU) ในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นผิวหนัง โดยชั้นผิวหนังที่ Ultrafomer จะสร้างคอลลาเจนสามารถแบ่งได้ออกเป็น 4 ชั้นผิวหนัง ดังนี้
ชั้นผิวหนังชั้นตื้น (Epidermis)
Ultraformer มีผลในการกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวหน้าดูกระจ่างใสขึ้นและลดปัญหาผิวที่เป็นรอยด่างดำ
ชั้นผิวหนังชั้นหนังแท้ (Dermis)
คลื่นเสียง HIFU ของ Ultraformer สามารถลงลึกถึงชั้นหนังแท้ที่มีคอลลาเจนและอิลาสตินอยู่มาก การกระตุ้นในชั้นนี้ช่วยเพิ่มการผลิตคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นและเต่งตึงขึ้น
ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Fat)
คลื่นเสียง HIFU ยังสามารถเข้าถึงชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ช่วยในการลดไขมันสะสมในบางพื้นที่ของใบหน้าและลำตัว ทำให้ใบหน้าและรูปร่างดูเรียวขึ้น
ชั้น SMAS (Superficial Musculoaponeurotic System)
ชั้น SMAS เป็นชั้นที่เชื่อมต่อกับกล้ามเนื้อใบหน้าและเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง การกระตุ้นในชั้นนี้ช่วยในการยกกระชับใบหน้าและปรับรูปทรงใบหน้าให้ดูเต่งตึงขึ้น ผลลัพธ์จะคล้ายกับการทำศัลยกรรมยกหน้าแต่ไม่มีแผลและไม่ต้องพักฟื้น
เพื่อช่วยยกกระชับผิวและลดเลือนริ้วรอย เทคโนโลยีนี้ได้รับความนิยมในวงการความงามเนื่องจากเป็นวิธีที่ไม่ต้องใช้การผ่าตัด และให้ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจน โดยไม่ต้องการเวลาฟื้นตัวที่นาน
หลายคนอาจรู้จักคุณสมบัติพื้นฐานของ Ultraformer แต่ยังมีรายละเอียดที่น่าสนใจอีกมากมายที่อาจไม่เคยรู้มาก่อนเกี่ยวกับเทคโนโลยีนี้
เราจะพาทุกคนไปเผชิญกับ 10 สิ่งที่อาจไม่เคยรู้เกี่ยวกับ Ultraformer กันค่ะ
1. Ultraformerใช้พลังงานต่างจากเครื่องมือยกกระชับอื่นอย่างไร?
Ultraformer ใช้พลังงานที่ชื่อว่า High-Intensity Focused Ultrasound (HIFU) ซึ่งแตกต่างจากการใช้คลื่นวิทยุ (RF) หรือเลเซอร์ที่ใช้กันทั่วไปในเครื่องยกกระชับผิวอื่น ๆ อย่างเช่น การเลเซอร์ (Laser) ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ที่เข้ารักษามักต้องการแก้ไขในส่วนของการปรับสีผิวพรรณให้เรียบเนียน หรือลดเลือนรอยแผลเป็นและรอยสิวบนผิวหน้า โดยเครื่องมือที่เลเซอร์ใช้จะใช้ตัวที่ชื่อว่า Fraxel, CO2 Laser และ Nd เป็นต้น อีกหนึ่งการยกกระชับผิวหน้าอย่างเช่น Thermage, Exilis, Venus Freeze เป็นหนึ่งในเครื่องมือของการยกกระชับ เป็นการทํางานของคลื่นวิทยุ (Radiofrequency - RF) ใช้พลังงานไฟฟ้าในการกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นหนังแท้ (Dermis) โดยใช้ความร้อนเป็นตัวกระตุ้น ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีความแตกต่างจาก Ultraformer ที่ใช้ พลังงาน HIFU โดยพลังงาน HIFU สามารถลงไปยังชั้นผิวหนังที่ลึกที่สุดอย่างชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นผิวหนังที่สำคัญในการยกกระชับผิว คลื่นเสียงจะทำให้เกิดความร้อนในชั้นผิวหนัง เป็นบริเวณที่คอลลาเจนและอิลาสตินถูกกระตุ้นให้สร้างใหม่ การกระตุ้นความร้อนในชั้นผิวหนังช่วยกระตุ้นเซลล์ fibroblasts ให้ผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินใหม่ ซึ่งช่วยให้ผิวพรรณมีความกระชับ ยืดหยุ่น และลดเลือนริ้วรอยหย่อนคล้อย
2. ปรับระดับความลึกในการรักษาได้
Ultraformer ไม่ใช่เพียงเครื่องมือที่ทำงานบนผิวชั้นเดียว แต่สามารถปรับระดับความลึกของการรักษาได้ถึงสามชั้น ได้แก่ ชั้นผิวหนัง ชั้นไขมัน และชั้น SMAS หรือ Superficial Muscular Aponeurotic System ซึ่งเป็นชั้นผิวที่สำคัญในการยกกระชับหน้า การปรับระดับนี้ช่วยให้การรักษามีความแม่นยำและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
3. ผลลัพธ์สามารถเห็นได้ทันทีหลังการรักษา
แม้ว่าผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจะเห็นได้ชัดเจนในช่วง 2-3 เดือนหลังการรักษา แต่หลายคนสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงในทันทีหลังจากทำ Ultraformer เสร็จ ซึ่งบริเวณที่เห็นผลดีมากหลังทำ Ultraformer ได้แก่
กรอบหน้า
เนื่องจากการทำ Ultraformer ในบริเวณกรอบหน้าช่วยยกกระชับผิว ทำให้กรอบหน้าดูชัดเจนมากขึ้น ลดความหย่อนคล้อย
เหนียง
ช่วยลดไขมันใต้คางและยกกระชับผิวบริเวณคอ ทำให้หน้าดูเรียวขึ้นและเหนียงลดลงอย่างเห็นได้ชัด
คอ
Ultraformer ช่วยยกกระชับผิวบริเวณคอ ลดริ้วรอยและความหย่อนคล้อย ทำให้คอดูเรียบเนียนและกระชับขึ้น
นี่เป็นเพราะการยกกระชับที่เกิดขึ้นจากการหดตัวของเนื้อเยื่อเมื่อได้รับพลังงาน HIFU
นอกจากนี้บริเวณที่คนส่วนใหญ่นิยมทํา ได้แก่ แก้ม การยกกระชับผิวบริเวณแก้ม ช่วยลดริ้วรอยและความหย่อนคล้อย ทำให้หน้าดูยกกระชับและดูสดใสขึ้น นอกจากนี้ยังมีส่วนของ หน้าผาก และรอบดวงตา เพราะเป็นส่วนที่เกิดปัญหาในเรื่องผิวพรรณ ความหย่อนคล้อยที่แลดูอ่อนล้าได้ง่าย จึงเป็นบริเวณที่คนส่วนใหญ่ตัดสินใจทํากัน
หากใครอยากทราบถึงส่วนต่างๆ ของใบหน้าที่ Ultraformer ทํางานได้ดี แก้ไขปัญหาได้ตรงจุดสุด ๆ ต้อง 3 ส่วนนี่เลย กรอบหน้า คอ และโหนกแก้ม
เหตุผลที่เป็นกรอบหน้า เพราะบริเวณกรอบหน้ามีผิวหนังชั้นกล้ามเนื้อเยอะกว่าบริเวณอื่น ทำให้การทำ Ultraformer สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นลึกได้ดี ทำให้กรอบหน้าดูชัดเจนและกระชับขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนของ คอ ผิวบริเวณคอมักมีความหย่อนคล้อยได้ง่าย การใช้ Ultraformer ช่วยยกกระชับผิวในชั้นลึกและลดไขมันบริเวณนี้ ทำให้คอดูเรียบเนียนและกระชับ และส่วนสุดท้ายที่ Ultraformer ทํางานได้ดี อย่างโหนกแก้ม เนื่องจากบริเวณโหนกแก้มเป็นจุดที่ต้องการการยกกระชับอย่างมีประสิทธิภาพ การทำ Ultraformer ในบริเวณนี้ช่วยให้หน้าดูยกกระชับและสดใสขึ้น
4. นอกจากจะยกกระชับได้แล้วยังดูแลสุขภาพผิวได้ด้วย
การทำ Ultraformer ไม่เพียงแต่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินเท่านั้น แต่ยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดในบริเวณที่ทำการรักษา ซึ่งส่งผลให้ผิวมีสุขภาพดีขึ้นและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
5. การรักษาด้วย Ultraformer ไม่จำเป็นต้องใช้ยาชา
การรักษาด้วย Ultraformer มักไม่จำเป็นต้องใช้ยาชา เนื่องจากพลังงาน HIFU จะถูกส่งไปยังชั้นผิวหนังที่ลึกอย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่มีความไวต่อความเจ็บ อาจมีการใช้ยาชาทาเพื่อลดความเจ็บปวด ซึ่งเมื่อพูดถึงการใช้ยาชาร่วมกับการรักษา มีข้อดีอยู่หลายส่วน
ข้อดีของการใช้ยาชา
- ลดความรู้สึกเจ็บปวดในระหว่างการรักษา
- ทำให้รู้สึกสบายและผ่อนคลายมากขึ้น และ
- มีส่วนช่วยให้แพทย์สามารถทำการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
โดยวิธีการใช้ยาชา ประกอบด้วยหลายวิธี เช่น ยาชาเฉพาะที่ (Topical Anesthesia) จะใช้ทาเฉพาะจุด เช่น ครีมหรือเจลที่ทาบนผิวหนัง เพื่อลดความรู้สึกเจ็บปวดในบริเวณที่ทำการรักษา หรือยาชาฉีด (Local Anesthesia) จะใช้ฉีดเข้าไปในผิวหนังหรือเนื้อเยื่อ เพื่อทำให้บริเวณนั้นไร้ความรู้สึกชั่วคราว
แต่เพื่อความสบายตัวและสบายใจ การใช้ยาชาร่วมกับการรักษาก็เป็นอีกสิ่งที่น่าเก็บไปพิจารณากันดูนะคะ
6. ไม่ได้ใช้แค่ที่หน้าแต่สามารถใช้ได้ทุกส่วนของร่างกาย
ไม่เพียงแต่ใช้กับผิวหน้าหรือคอ Ultraformer ยังสามารถใช้ได้กับส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา เพื่อยกกระชับผิวและลดไขมันสะสมในบริเวณนั้น
การใช้ Ultraformer ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายที่กล่าวไปข้างต้น เช่น หน้าท้อง ต้นแขนและต้นขา เป็นการยกกระชับผิวและลดไขมันสะสมในบริเวณนั้น ๆ ซึ่งผลการรักษาสามารถเห็นได้ชัดเจนภายในไม่กี่สัปดาห์หลังการรักษา และผลลัพธ์จะค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงเวลา 2-3 เดือนหลังการรักษา เนื่องจากกระบวนการสร้างคอลลาเจนใหม่เกิดขึ้น หากใครอยากลดไขมันและยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด ลองรักษาด้วย Ultraformer กันดูนะคะ
7. ทำเสร็จใช้หน้าได้เลยไม่ต้องพักฟื้น
หนึ่งในข้อดีที่สำคัญคือความปลอดภัยและไม่ต้องพักฟื้น เนื่องจากการทำ Ultraformer เป็นวิธีที่ไม่ต้องใช้การผ่าตัดหรือการเจาะผิว ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงและเวลาการฟื้นตัว มีความสะดวกกับผู้ที่ต้องการรับการรักษาแบบไม่ใช้เวลาพักฟื้น รวมถึงปลอดภัยต่อการรักษาอีกด้วย
โดย Ultraformer มีหลายรุ่น หลายประเภทที่ใช้เทคโนโลยีนี้ในการรักษาและแต่ละรุ่นก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป เราจะมาทําความรู้จักประเภทของ Ultraformer กันค่ะ
ประเภทแรก คือ
Ultraformer III
Ultraformer III เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปัจจุบัน โดยมีการพัฒนาเทคโนโลยีให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ประกอบกับเหตุผล 4 ข้อสําคัญที่ทําให้เป็นที่นิยมสูงสุดในปัจจุบัน
- เทคโนโลยีใหม่
Ultraformer III เป็นการพัฒนาเทคโนโลยี HIFU ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยมีหัวอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อให้การรักษามีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น
- มีหลายโปรแกรมการรักษา
Ultraformer III มาพร้อมกับหลายโปรแกรมการรักษาที่สามารถปรับใช้ตามความต้องการของการรักษา เช่น การยกกระชับใบหน้า, ลดไขมันใต้คาง, และการรักษาบริเวณลำคอ
- มีหลายระดับความลึก
สามารถเลือกความลึกของการรักษาได้ตั้งแต่ 1.5 มม. ถึง 4.5 มม. ขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่ต้องการรักษา
- ผลลัพธ์ที่ชัดเจน
ผลลัพธ์จากการทำ Ultraformer III มักจะเห็นได้ชัดเจนหลังจากการรักษาประมาณ 2-3 เดือน
และประเภทที่ 2 คือ
Ultraformer LLLT
Ultraformer LLLT ย่อมาจาก Low-Level Laser Therapy เป็นอีกประเภทหนึ่งของ Ultraformer ที่ใช้เลเซอร์ที่มีพลังงานต่ำเพื่อลดอาการเจ็บปวดและกระตุ้นกระบวนการรักษาตามธรรมชาติของร่างกาย โดยการใช้แสงเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นต่ำ เพื่อช่วย
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
LLLT สามารถกระตุ้นเซลล์ผิวให้ผลิตคอลลาเจนและอิลาสติน ซึ่งช่วยยกกระชับผิวและลดริ้วรอย
- ลดการอักเสบ
การใช้แสงเลเซอร์ในความถี่ต่ำทําให้ช่วยลดการอักเสบและบรรเทาอาการบวม
- เพิ่มการไหลเวียนของเลือด
การกระตุ้นด้วยเลเซอร์ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในบริเวณที่รักษา ส่งผลให้ผิวดูสุขภาพดีขึ้น
และที่สําคัญคือ เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบาง สามารถใช้ได้กับผู้ที่มีผิวบอบบางหรือมีปัญหาผิวบางอย่างที่ไม่สามารถใช้เทคโนโลยี HIFU ปกติได้
ประเภทที่ 3 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล่าสุด คือ
Ultraformer MPT (Multi-Polar Technology)
เป็นการพัฒนาล่าสุดของเทคโนโลยี Ultraformer ที่เพิ่มประสิทธิภาพในการยกกระชับผิวและลดไขมันสะสม โดยการใช้เทคโนโลยี Multi-Polar Radiofrequency (MPRF) หรือเทคโนโลยีคลื่นวิทยุแบบหลายขั้วเพื่อเพิ่มผลลัพธ์ในการรักษา โดยคุณสมบัติของ Ultraformer MPT
- เทคโนโลยี Multi-Polar Radiofrequency (MPRF)
การกระจายพลังงาน: เทคโนโลยี MPRF ใช้หลายขั้วในการปล่อยคลื่นวิทยุ ซึ่งช่วยในการกระจายพลังงานอย่างสม่ำเสมอในชั้นผิวหนัง ทำให้การกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ซึ่งเทคโนโลยีนี้สามารถเข้าถึงชั้นผิวหนังที่ลึกกว่า ส่งผลให้สามารถยกกระชับผิวได้ดีขึ้นและลดไขมันสะสมในชั้นที่ลึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การรักษาที่แม่นยำ
ด้วยการควบคุมพลังงานระบบ MPT สามารถควบคุมพลังงานที่ใช้ได้อย่างแม่นยำ โดยสามารถปรับระดับพลังงานตามความต้องการของแต่ละบริเวณและความหนาของผิวหนังเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง
- เพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
Ultraformer MPT ช่วยในการยกกระชับผิวหน้าและบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย โดยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน มีประสิทธิภาพในการลดไขมันสะสมในบริเวณที่ทำการรักษา ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและมีรูปร่างที่ดีขึ้น
- การใช้รักษาในบริเวณต่าง ๆ
อย่างเช่น ใบหน้า ใช้ในการยกกระชับผิวหน้า ลดริ้วรอย และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนช่วยลดความหย่อนคล้อยของผิวลำคอ หรือสามารถใช้ในการยกกระชับผิวและลดไขมันสะสมในบริเวณต่าง ๆ เช่น หน้าท้อง ต้นแขน และต้นขาได้
ที่สําคัญคือความปลอดภัยและความสะดวกสบาย เพราะเป็นการรักษาแบบไม่ผ่าตัด ไม่ทําให้เกิดแผลเป็น ใช้เวลาน้อยและไม่จำเป็นต้องมีการเตรียมตัวพิเศษก่อนการรักษา
โดยการเลือกประเภทของ Ultraformer ขึ้นอยู่กับความต้องการและปัญหาผิวของแต่ละบุคคล รวมถึงสภาพผิวและผลลัพธ์ที่ต้องการได้รับ ก่อนตัดสินใจทำการรักษาควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกประเภทที่เหมาะสมกับความต้องการกันด้วยนะคะ
8. Ultraformerเป็นการรักษาที่ทําให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน
การสร้างคอลลาเจนใหม่ที่เกิดจากการรักษาด้วย Ultraformer ช่วยให้ผลลัพธ์ของการยกกระชับผิวอยู่ได้นานถึง 12-18 เดือน ซึ่งยาวนานกว่าการรักษาแบบอื่น ๆ เช่น การใช้เลเซอร์หรือ RF เนื่องจาก Ultraformer เป็นเทคโนโลยีที่ใช้การกระตุ้นด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (High-Intensity Focused Ultrasound หรือ HIFU) ซึ่งมีข้อดีในการให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานและดูเป็นธรรมชาติ การรักษานี้ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นผิวหนังลึก ทำให้ผิวกระชับและเรียบเนียนขึ้น
แต่หากสัมผัสแดดโดยไม่มีการป้องกัน ทำให้ผิวเสียหายและลดการสร้างคอลลาเจนใหม่ ซึ่งอาจทำให้ผลลัพธ์ของ Ultraformer ลดลงเร็วขึ้น หรือการสูบบุหรี่ก็มีส่วนทำให้การไหลเวียนของเลือดในผิวหนังลดลง ซึ่งอาจส่งผลต่อการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน และลดผลลัพธ์ของการรักษาได้เช่นกัน ดังนั้นการรักษาด้วย Ultraformer มีข้อดีที่ทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานเนื่องจากการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นผิวหนังลึก อย่างไรก็ตาม การดูแลผิวและการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมตามที่ได้อธิบายไปข้างต้นสามารถช่วยให้ผลลัพธ์ของการรักษายังคงอยู่ได้นานและมีประสิทธิภาพสูงสุดค่ะ
9. มีการศึกษาและงานวิจัยรองรับ
สําหรับการรักษาตัวนี้ได้รับการศึกษาและยืนยันประสิทธิภาพจากงานวิจัยหลายชิ้น ตัวอย่างเช่น การศึกษาที่ตีพิมพ์ใน Journal of Cosmetic and Laser Therapy พบว่าการรักษาด้วย HIFU มีประสิทธิภาพในการยกกระชับผิวและลดริ้วรอยอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้ง
มีการรับรองทางการแพทย์ ว่า Ultraformer ได้รับการรับรองจากหน่วยงานทางการแพทย์ที่เชื่อถือได้ในหลายประเทศ เช่น FDA ในสหรัฐอเมริกา และ CE Mark หรือ “European Conformity” (มาตรฐานความสอดคล้องในทวีปยุโรป) การรับรอง CE คือกฎระเบียบว่าด้วยความปลอดภัยในสหภาพยุโรปที่กำหนดให้ผลิตภัณฑ์ต้องผ่านการทดสอบที่ระบุไว้ จึงจะสามารถจำหน่ายได้อย่างถูกกฎหมายในสหภาพยุโรปและเขตเศรษฐกิจยุโรป ซึ่งเป็นการรับรองว่าเทคโนโลยีนี้มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ดังนั้นทางคลินิกเราจึงมั่นใจในการนําเครื่องมือเทคโนโลยี Ultraformer มาปรับใช้กับการรักษาลูกค้า รวมถึงได้มีการศึกษาและงานวิจัยทางการแพทย์ที่หลากหลายสนับสนุนการใช้งาน Ultraformer ในการยกกระชับผิว เช่น
งานวิจัยจาก Journal of Cosmetic and Laser Therapy
- งานวิจัยนี้ระบุว่า HIFU มีประสิทธิภาพในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวหนังชั้นลึก โดยการใช้พลังงานโฟกัสสูงสามารถทำให้เกิดการกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นและกระชับมากขึ้น
- ตัวอย่างหนึ่งจากการศึกษา พบว่าผู้เข้าร่วมการวิจัยที่ได้รับการรักษาด้วย HIFU มีการปรับปรุงอย่างชัดเจนในเรื่องของความเรียบเนียนและความกระชับของผิวหลังจากการรักษาเพียงไม่กี่ครั้ง
- การศึกษาที่นำเสนอในวารสารนี้เกี่ยวกับการใช้ HIFU เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวหนังชั้นลึก มีการทดลองกับกลุ่มผู้เข้าร่วมการวิจัยที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย พบว่าหลังจากการรักษา 3 เดือน ความกระชับของผิวหนังเพิ่มขึ้น 30% และความยืดหยุ่นของผิวเพิ่มขึ้น 25%
- ผู้เข้าร่วมการวิจัยรายหนึ่งอายุ 45 ปี รายงานว่าผิวบริเวณใบหน้าและคอดูกระชับขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และความเรียบเนียนของผิวหนังดีขึ้นภายในระยะเวลา 6 เดือน
งานวิจัยจาก Aesthetic Surgery Journal:
- การศึกษานี้พบว่าผู้ที่ใช้ HIFU รู้สึกว่าผิวกระชับขึ้นและริ้วรอยลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งผลลัพธ์เหล่านี้สามารถเห็นได้ทันทีหลังจากการรักษาและยังคงมีผลต่อเนื่องไปอีกหลายเดือน
- ตัวอย่างหนึ่งจากการศึกษา รายงานว่า 85% ของผู้เข้าร่วมการวิจัยรู้สึกว่าผิวของตนกระชับขึ้นและริ้วรอยลดลงภายใน 3 เดือนหลังการรักษา ผู้เข้าร่วมการวิจัย 85% รู้สึกว่าผิวหนังของตนกระชับขึ้นและริ้วรอยลดลงอย่างเห็นได้ชัด
- ผู้เข้าร่วมการวิจัยรายหนึ่งอายุ 50 ปี รายงานว่าริ้วรอยบริเวณหน้าผากและรอบดวงตาลดลงอย่างชัดเจนหลังการรักษาเพียงครั้งเดียว และผลลัพธ์ยังคงอยู่ต่อเนื่องไปอีก 6 เดือน
การศึกษาจาก International Journal of Dermatology
- การศึกษานี้ระบุว่า HIFU เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการยกกระชับผิวหน้าและลำคอ โดยมีผลลัพธ์ที่ยั่งยืน ซึ่งสามารถเห็นผลได้ตั้งแต่การรักษาครั้งแรกและผลลัพธ์จะชัดเจนขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
- ตัวอย่างหนึ่งจากการศึกษา พบว่าผู้เข้าร่วมการวิจัยที่ได้รับการรักษาด้วย HIFU มีการปรับปรุงอย่างชัดเจนในเรื่องของความยืดหยุ่นและความกระชับของผิว โดยผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้นานถึง 6 เดือนถึง 1 ปี
- ผู้เข้าร่วมการวิจัยรายหนึ่งอายุ 40 ปี รายงานว่าผิวหนังบริเวณลำคอดูกระชับขึ้นและริ้วรอยบริเวณรอบดวงตาลดลงอย่างชัดเจนหลังการรักษา 6 เดือน
10. ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจ
นอกจากผลลัพธ์ทางกายภาพ การมีผิวที่เรียบเนียนและยกกระชับยังช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นให้กับผู้ที่ทำการรักษา
อ่านมาถึงตรงนี้แล้วหลายคนคงอยากทราบถึงราคาของการรักษาด้วยการทํา Ultraformer ใช่ไหมคะ
เราจะมาสรุปสั้นๆ ในส่วนนี้ทิ้งท้ายกันค่ะ
ความเชี่ยวชาญของแพทย์ที่ให้บริการ และขอบเขตของการรักษาที่ต้องการ โดยทั่วไปแล้ว ราคาของการทำ Ultraformer สามารถแบ่งตามบริเวณที่ทำได้ ดังนี้
- Ultraformer เริ่มต้น 300 เพียง 7,900 บาท
- Ulthera เริ่มต้น 100 line เพียง 9,900
- Thermage เริ่มต้น 300 shot เพียง 27,900 บาท
* เป็นราคาโดยประมาณ ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ทําการรักษาและคลินิก หรือหากท่านใดอยากทราบถึงราคาของการรักษาที่ใกล้เคียงที่สุด สามารถจองรับคําปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่คลินิกของเราได้เลยนะคะ ที่ Facebook Dermistique page
บทสรุป
Ultraformer คือเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูงในการยกกระชับผิวและลดเลือนริ้วรอย ด้วยการใช้พลังงานจากคลื่นเสียงความถี่สูงที่มุ่งเน้น (HIFU) เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวลึก ทำให้ผิวดูแน่นกระชับและอ่อนเยาว์ขึ้น
ประโยชน์ของ Ultraformer
- ยกกระชับผิว Ultraformer ช่วยยกกระชับผิวหน้าที่หย่อนคล้อยให้กลับมาตึงกระชับอีกครั้งโดยไม่ต้องผ่าตัด
- ลดเลือนริ้วรอย : การใช้ HIFU ช่วยลดเลือนริ้วรอยและทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
- ผลลัพธ์ยาวนาน : ผลลัพธ์จากการทำสามารถอยู่ได้นานถึง 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลรักษาหลังการทำ
การเลือกคลินิกที่เหมาะสมและมีความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยในการทำ Ultraformer
ควรตรวจสอบรีวิวและความคิดเห็นจากผู้ใช้บริการคนอื่นๆ ก่อนตัดสินใจกันด้วยนะคะ
เห็นไหมคะว่า Ultraformer III เป็นอีกหนึ่งวิธีการรักษาที่น่าสนใจ สำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด และหากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับราคาหรือโปรโมชั่นล่าสุด สามารถติดต่อคลินิก เพื่อสอบถามรายละเอียดและทำการนัดหมายได้โดยตรงได้เลยค่ะ และหากใครต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Ultraformer III หรือการบริการของเราที่เกี่ยวข้อง สามารถติดต่อเราได้ที่ Line @dermistique ได้เลยนะคะ
ที่มา
Journal of Cosmetic and Laser Therapy
Aesthetic Surgery Journal